การจอดรถยนต์หน้าบ้านคนอื่นเป็นคนไม่มีมารยาทหรือว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว

คนเห็นแก่ตัว

 

        คนเห็นแก่ตัว การอยู่ร่วมกันในสังคมเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่ทุกคนจะต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไม่เห็นแก่ตัว ปัญหาส่วนใหญ่ตอนนี้ที่มักพบในหมู่บ้านต่างๆคือ มีปัญหาเรื่องของการจอดรถยนต์ในจุดที่ไม่ใช่ในบริเวณบ้านของตนเอง  

คนเห็นแก่ตัว ไม่ว่าจะจอดรถข้างถนนทำให้ถนนแคบรถสวนกันลำบาก หรือจดรถหน้าบ้านตัวเอง แต่ด้วยถนนในซอยแคบคนที่บ้านอยู่ข้างในหรือบ้านฝั่งตรงข้ามก็จะเข้าออกลำบาก หรือที่แย่สุดมีบางคนเอารถไปจอดขวางทางเข้าออกหน้าบ้านของคนอื่น เพียงแค่คิดว่าขอจอดแค่แป๊ะเดียวไม่นานคงไม่เป็นอะไรหรอก 

         ปัญหาการจอดรถยนต์ในที่ที่เป็นจุดไม่ใช่ในอาณาเขตบ้านของต้นเอง

นั้นเป็นปัญหาที่พบในสังคมปัจจุบันมากที่สุดในขณะนี้ อาจกล่าวได้ว่าปัญหานี้เป็นปัญหาระดับชาติได้เลยทีเดียว จะเห็นได้จากบ่อยครั้งที่มีออกมาเป็นข่าวดังถึงเรื่องปัญหาการจอดรถ ซึ่งปัญหานี้ส่วนมากมักจะจบลงด้วยการทะเลาะวิวาท ชกต่อยกัน บางข่าวมีเหตุยิงกันตาย ด้วยสาเหตุนี้ก็มี หรือก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่ามีคนไปจอดรถของหน้าบ้านของคนอื่นทำให้เจ้าของบ้านออกมาไม่ได้ ต้องนำขวานมาทุบรถเพื่อประท้วงเจ้าของรถ

          อันที่จริงปัญหานี้ เกิดจากความเห็นแก่ตัวหรือการไร้มารยาทของเจ้าของรถยนต์ทั้งสิ้น ลองคิดถึงว่าเราเป็นเจ้าของบ้าน หากเราต้องรีบไปธุระ ไปโรงพยาบาล มีเหตุด่วนจำเป็นที่จะต้องออกนอกบ้าน แต่เราไม่สามารถออกไปได้เพราะติดตรงที่มีรถยนต์ของคนอื่นมาจอดขวางที่หน้าบ้านของเรา แล้วเราจะเป็นยังไง

ถ้าหากว่าจ้าของบ้านไม่ได้รีบไปธุระก็คงไม่เป็นอะไร

แต่นี้ส่วนใหญ่จะมีเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ทำให้ต้องออกไปแทบทั้งสิ้น อันที่จริงถ้ามีเหตุที่จะต้องจอดรถบริเวณนั้นจริง แนะนำว่าควรมีการเขียนเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้เจ้าของบ้านเพื่อให้โทรติดต่อเราที่เป็นเจ้าของรถยนต์ได้เผื่อเจ้าของบ้านมีเหตุด่วนที่จะรีบออกจากบ้านจะได้ไม่มีปัญหา และที่สำคัญหาเขาโทรไปตามแล้วควรรีบกลับมาขยับรถทันที อย่ามัวแต่คิดว่าอีกแป๊บเดียว เพราะความหมายของคำว่าแป๊บเดียวของคนเราไม่เท่ากัน ควรเอาใจเขามาใส่ใจเรา ปัญหาการทะเลาะกันก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน  

ที่สำคัญผู้คนส่วนใหญ่คงยังไม่ทราบกันว่าการจอดรถขวางหน้าบ้านของคนอื่น จริงๆแล้วมันผิดกฎหมายนะจ๊ะ โดยถ้าเปิดตำรากฎหมายแล้ว ตามมาตรา 397 ซึ่งมีการะบุเอาไว้

และหากมีการทำความผิดจะถูกปรับเป็นเงินไม่เกิน 5000 บาทนะจ๊ะ ดังนั้นทางทีดีที่สุดควรเคารพกฎหมายและควรมีมารยาทจะดีที่สุดจ๊ะ 

Continue Reading

ว่าด้วยการเล่นหุ้น

การเล่นหุ้น

การเล่นหุ้น นั้นมีความเสี่ยง หากคุณอยากเล่นหุ้นหรืออยากศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับการเล่นหุ้น เราขอเสนอบทความนี้ เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับการเล่นหุ้นอย่างไรให้ฟังกัน

การเล่นหุ้น การเล่นหรือการลงทุนเกี่ยวกับหุ้นนั้นเป็นการเล่นหุ้นด้วยการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์นี้เราสามารถดูด้ายว่าเราสามารถซื้อได้อย่างไรด้วยการดูการจดทะเบียนของบริษัทต่างๆลงในตลาดหลักทรัพย์นั้นเอง ซึ่งการซื้อและการขายหุ้นนั้นมีอยู่สองตลาดด้วยกัน นั้นก็คือตลาดแรก และตลาดรอง 

ขยายความเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นในตลาดแรก

การซื้อขายหุ้นในตลาดแรกหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการซื้อขายหุ้น IPO (Initial Public Offering) หมายถึงบริษัทนั้นต้องการขยายการลงทุนเพิ่มจึงกระทำการระดมทุนจากเหล่านักลงทุนทั้งหลายเพื่อจะขยายกิจการของบริษัทตนนั้นเอง ซึ่งราคาทั้งหลายของหุ้นนั้นจะถูกกำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นนักลงทุนจะจองหรือต้องการซื้อหุ้นได้นั้นจะต้องซื้อหรือจองผ่านผู้จัดจำหน่ายเพียงเท่านั้น อาทิเช่น จะซื้อหรือจองหุ้นด้วยการทำการจองผ่านบริษัทหลักทรัพย์ หรืออาจจะเป็นตัวแทนในการจำหน่ายของบริษัทหลักทรัพย์เหล่านั้น

ขยายความเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักรอง

การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักรองเป็นการซื้อขายหุ้นหลังจากการทำซื้อขายหุ้นในตลาดแรกเสร็จแล้ว แล้วจึงกลายมาเป็นการซื้อหรือขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นั้นเอง ซึ่งราคาจะมีการเปรี่ยนไปตามการดูแลของบริษัทนั้นๆหรืออาจะเปลี่ยนตามสภาวะของตลาดหลักของ demand supply ก็ได้เช่นกัน

การเล่นหุ้นมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน

เราแยกประเภทในการเสี่ยงจากการลงทุนเล่นหุ้นเป็น 2 ส่วน ด้วยกัน 

การเสี่ยงจากปัจจัยภายใน นั้นก็คือ การเสี่ยงจากบริษัทโดยตรงหรือการเกิดจากบริษัทเป็นผู้กระทำเอง ซึ่งอาจจะเกิดจากการดำเนินการหรือการบริหารของคณะผู้บริหารของทางบริษัทนั้นๆ 

การเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก นั้นก็คือ สำหรับการเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกเกิดขึ้นได้หลากหลายวิธีด้วยกัน ซึ่งอาจจะเป็นการเกิดขึ้นด้วยการมีการเปลี่ยนแปลงของอุสาหกรรมเอง หรืออาจจะเกิดจากปัจจัยอื่นๆ เช่นอัตราการแลกเปลี่ยนเงิน (ในกรณีนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วยการที่บริษัทเหล่านั้นได้มีการทำธุรกรรมเกี่ยวกับต่างประเทศ )หรืออาจจะเกิดจากการเมืองที่กำลังมีปัญหา เพราะสิ่งเหล่านี้ก็สามารถสร้างผลกระทบให้กับราคาหุ้นได้เช่นกัน

ใครบ้างที่สามารถลงทุนได้

การลงทุนที่จะเล่นด้วยการซื้อขายหุ้นนี้เป็นการเสี่ยงอย่างหนึ่ง ซึ่งเหล่าบรรดานักลงทุนจะต้องมีความคิดและต้องศึกษาให้เป็นอย่างดีเสียก่อน ต้องกระทำการคัดสรรหาหุ้นที่มีแนวโน้มที่ดีให้มากที่สุดก่อนจะลงทุน เพราะการลงทุนไม่ใช่อะไรก็ได้ แต่ควรจะต้องศึกษาและทำความรู้จักให้มากพอก่อนจะตัดสินใจทำการซื้อขาย เราสามารถพิจารณาหุ้นต่างๆก่อนตัดสินใจด้วยการมองจากปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งเราอาจจะต้องให้ความสำคัญกับหลายๆเรื่องด้วยการเสียสละเวลาของตนเข้าไปศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับงบกำไรหรือการขาดทุนให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ท่านควรวิเคราะห์ให้ดีก่อนจะตัดสินใจทุกครั้ง

Continue Reading

การใช้ชีวิตในสังคมโรงาน

การใช้ชีวิตในสังคมโรงาน

การใช้ชีวิตในสังคมโรงาน ผมคิดว่าการดำเนินชีวิตในโรงงานมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะเราต้องเจอกับคนหลายรูปแบบหลากหลายประเภท

 

การใช้ชีวิตในสังคมโรงาน เช่น คนประเภทที่ประจบหัวหน้าบ้าง  คนประเภทเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานบ้าง หรือคนประเภทพูดให้ร้ายคนอื่นบ้าง เพื่อให้ตัวเองนั้นดูดีและได้ดีเพื่ออจะเป็นหน้าเป็นตาของหัวหน้า ฃึ่งต่างจากคนที่เขาตั้งใจทำงานเพื่อผลงานที่ดี

แต่หารู้ไม่ว่า คนที่ตั้งใจทำงานนั่นแทบจะไม่ค่อยมีผลงาน

หรือก้าวหน้าอะไรเลยอาจจะมีบ้างแต่มันก็จะน้อยกว่าคนที่ไม่ทำงานแล้วเอาแต่ประจบเจ้านายเพื่อให้ตัวเองนั้นสบายไม่ต้องทำอะไรมากเหมือนคนที่ตั้งใจทำงานนี่คือสิ่งที่สังคมในโรงงานที่จะต้องเจออีกมากมายบางทีเจอหัวหน้างานดีก็ดีไปที่เขาไม่ต้องการคนที่ประจบเจ้านายมากกว่าคนที่ตั้งใจทำงานแล้วผลงานออกมาดีอย่างที่ต้องการ

 

การทำงานเข้ากะมี 3 ประเภทด้วยกันนั้นก็คือ

  • กะเช้า 

กะเช้า เป็นอะไรที่ไม่อยากตื่นกันเลยทีเดียวเลยแหล่ะ เพราะต้องตื่นเช้าเร่งรีบในการอาบน้ำแต่งตัว เพื่อที่จะออกไปทำงานเพราะกลัวว่ารถจะติดบ้างหรือเข้างานสายบ้าง ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นกลัวจะถูกตัดเบี้ยขยัน กล้วเข้าประชุมไม่ทัน

เพราะอาจจะฟังแผนการไม่ทันว่าหัวหน้างานจะชี้แจงงานอะไรบ้างในแต่ละวัน หากไปสายก็โดนตำนิหรือเรียกให้ใบเตือนซึ่งถ้าโดนบ่อยๆก็มีผลต่อโบนัสปลายปีและหมดสิทธิ์ที่เงินเดือนจะขึ้นอีกด้วย หรือหากขาดงานบ่อยครั้งอาจโดนไล่ออกก็เป็นได้             

  • กะบ่าย 

กะบ่าย เป็นอะไรที่ค่อนข้างเหนื่อยล้าในการที่จะเข้างานมาก เพราะต้องเข้าบ่ายโมงเลิกเที่ยงคืน หากบางโรงงานมีคนขาดก็ต้องถูกบังคับให้ทำงานต่อกะแทนคนที่ขาดงานในกะถัดไป การเข้าบ่ายไม่เหนื่อยเท่าไหร่เพราะไม่ต้องเร่งรีบให้รถติดแต่มันออกจะขี้เกียจไปนิด เพราะบ่ายโมงเป็นเวลาที่ไม่ขยันอย่างที่ควรจะเป็น

การดำเนินการในเวลางานก็จะหนักนิดหน่อยเพราะกะเช้าหากมีปัญหาในการทำงานล่าช้า กะบ่ายต้องคอยรับภาระอันนั้นต่อ ทำให้กะบ่ายต้องเร่งฝีมือกันอย่างหนักลากยาวไปจนดึก

  • กะดึก

กะดึก เป็นอะไรที่ไม่อยากเข้าเลย เพราะเวลาเย็นนั้นเป็นเวลาที่ได้เจอหน้าครอบครัว แต่เราต้องแต่งตัวไปทำงาน เวลาในการทำงานก็แสนจะเหนื่อยล้าเพราะเวลานอนของคนทั่วไปแต่เราต้องมานั่งทำงาน การทำงานในกะนี้ดีอยู่อย่างเดียวคือหัวหน้าใหญ่ไม่ลงมาจู้จี่ เพราะพวกเขากลับบ้านกันหมดแล้ว มีแค่หัวหน้าแผนกเท่านั้นที่เข้ามาดูแล

ซึ่งส่วนใหญ่หัวหน้าแผนกก็เข้าใจลูกน้องในกะนี้ดีว่าจะมีการง่วงนอนบ้าง หรือจะมีการแอบอู้กันบ้าง แต่ทว่าหัวก็ไม่ว่าอะไรเรียกว่าให้อิจสระมากกว่ากะอื่นๆ 

Continue Reading