พี่สะใภ้ถูกน้องสามียิงเสียชีวิตเหตุ เก็บกด เพราะถูกพี่สะใภ้ด่าบ่อย

       พี่สะใภ้ถูกน้องสามียิงเสียชีวิตเหตุ  เมื่อวันที่ 8 เดือนมิถุนายนปีพศ 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจในจังหวัดพัทลุงได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่ามีหญิงสาววัย 46 ปีถูกยิงเสียชีวิตคาบ้านพักของตนเอง  โดยบ้านหลังดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลทุ่งนารีซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงก็พบศพหญิงสาวที่ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ตรงบริเวณข้างบ้านครึ่งจุดดังกล่าวนั้นอยู่ใกล้กับโรงจอดรถนั่นเอง

        อย่างไรก็ตามผู้ที่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นก็คือญาติของผู้เสียชีวิต ชื่อว่านางน้อย  โดยนางน้อยเล่าว่าผู้ที่ลงมือก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตนั้นมีศักดิ์เป็นน้องเขยของผู้เสียชีวิตเองซึ่งเป็นน้องชายของสามีของผู้เสียชีวิตซึ่งในช่วงที่เกิดเหตุนั้นไม่มีคนเห็นเหตุการณ์เนื่องจากว่านางน้อยนั้นได้อาบน้ำอยู่ในห้องน้ำได้ยินเพียงแค่เสียงปืนเท่านั้นซึ่งได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 3 นัด

       หลังจากนั้นเธอจึงได้ออกมาจากห้องน้ำและตะโกนตามหาผู้เสียชีวิตโดยในครั้งแรกเธอคิดว่าผู้เสียชีวิตอาจจะตกใจเสียงปืนและวิ่งหนีไปซ่อนตัวแต่หลังจากที่ตะโกนตามหาและเดินตามหาอยู่นานก็พบว่ามานอนเสียชีวิตตรงบริเวณลานจอดรถ   ส่วนญาติคนอื่นๆนั้นในขณะนี้อยู่ที่วัดเนื่องจากว่ามีการจัดงานศพ ของแม่สามีของผู้เสียชีวิตอยู่ที่วัดซึ่งทุกคนกลับมาอาบน้ำเพื่อที่จะไปร่วมงานเผาศพกันในช่วงเวลาบ่ายแต่ปรากฏว่าน้องสามีของผู้ตายได้มายิงผู้ตายเสียชีวิตไปเสียก่อน

     อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้มีการออกตามหาผู้ก่อเหตุปรากฏว่าตัวผู้ก่อเหตุเองนั้นได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปที่สถานีตำรวจและเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเขายอมรับว่าเขาเป็นคนลงมือใช้อาวุธปืนยิงพี่สะใภ้เสียชีวิตเองโดยเขาให้เหตุผลของการก่อเหตุในครั้งนี้ว่าเขารู้สึกเก็บกดมานานแล้วเนื่องจากว่าพี่สะใภ้มักจะดุด่าเขาเป็นประจำโดยชอบด่าว่าเขานั้นไม่ดูแลแม่

        ซึ่งก่อนหน้านี้แม่ของเขาป่วยหนักเป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งผู้เสียชีวิตนั้นมักจะว่าเขาเกี่ยวกับเรื่องของการดูแลแม่ว่าไม่ช่วยทำความสะอาดโดยหลังจากที่เขาถูกต่อว่าอยู่บ่อยๆเข้าก็ทำให้เขานั้นสะสมความเครียดเลยมาจนวันเกิดเหตุนั้นในขณะที่เขากำลังนอนดูทีวีอยู่ภายในบ้านผู้เสียชีวิตก็กลับมาที่บ้านหลังจากที่ไปจัดเตรียมงานที่วัดและเขาได้เห็นว่าผู้เสียชีวิตเดินไปเดินมาอยู่ภายในบ้านด้วยอารมณ์โมโหที่ยังคลุกฝุ่นอยู่ทำให้เขาตัดสินใจคว้าปืนมายิงผู้เสียชีวิตหลังจากนั้นก็หลบหนีออกจากบ้านและเมื่อสำนึกตัวได้จึงได้ขับรถมาที่สถานีตำรวจเพื่อมามอบตัวนั้นเอง 

 

ขอบคุณ  สมัครเว็บ ufabet  ที่ให้การสนับสนุน

Continue Reading

โจรบุกปล้นร้านทอง ในศูนย์การค้าบิ๊กซี สาขา ปากช่อง

      โจรบุกปล้นร้านทอง เมื่อวันที่ 1 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2564 ช่วงเวลาประมาณห้าโมงเย็นได้มีเหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขา ปากช่อง ที่อยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา  โดยเหตุการณ์ดังกล่าวรวมเกิดขึ้นเมื่อมีชายคนหนึ่งแต่งเครื่องแบบเหมือนกับพนักงานส่งอาหารของบริษัทส่งอาหารชื่อดัง 

โดยชายคนดังกล่าวได้บุกเข้าไปในร้านทองซึ่งตั้งอยู่ภายในห้างบิ๊กซีชื่อว่าร้านเพชรทองเยาวราชหลังจากนั้นก็ได้ใช้อาวุธปืนจี้พนักงานที่อยู่ภายในร้านบังคับให้พนักงานหยิบทองใส่กระเป๋าให้  โดยระหว่างนั้นพนักงานเองก็เกิดความหวาดกลัว ร้องขอชีวิตซึ่งโจรก็เลยบอกพนักงานว่าจะไม่มีการทำร้ายพนักงานแต่ให้รีบนำทองใส่ในกระเป๋า

       อย่างไรก็ตามในจังหวะนั้นเองเจ้าของร้านซึ่งอยู่ทางด้านนอกร้านได้เห็นเหตุการณ์คดีและมองเห็นแล้วว่าโจรกำลังเผลอจึงได้ทำการเข้าชาร์จโจรทางด้านหลังหวังจะจับกุม แต่ถูกคนร้ายต่อสู้ขัดขืนและใช้อาวุธปืนยิงจนเจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ตรงบริเวณหน้าร้านทองหลังจากนั้นคนร้ายก็ได้ลากผู้บาดเจ็บเข้าไปภายในร้าน

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่พนักงานนำทองใส่กระเป๋าให้กับคนร้ายเสร็จเรียบร้อยแล้วคนละร้อยก็ได้นำกระเป๋าออกมาแล้วทำการหลบหนีออกจากร้านทองและหนีออกจากห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีทันทีซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้คนร้ายได้มีการใช้อาวุธปืนยิงเจ้าของร้านทองไปทั้งหมด 2 นัดด้วยกัน

        อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้เห็นเหตุการณ์เป็นจำนวนมากเนื่องจากก็เป็นช่วงที่มีคนเดินทางไปช้อปปิ้งที่ห้างบิ๊กซีกันค่อนข้างเยอะที่สำคัญยังมีคนที่อยู่ในเหตุการณ์ใกล้ๆมีการถ่ายคลิปวีดีโอเอาไว้ได้ซึ่งจะเห็นการกระทำทั้งหมดของคนร้าย สำหรับเขายังไม่มีการรายงานออกมาว่าคนร้ายนั้นได้ทรัพย์สินอะไรไปบ้างซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งประสานงานกับคุณตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างด่วนที่สุด 

         อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้ผ่านไปเพียงแค่ 1 วันเท่านั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ปากช่อง  ก็สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้วซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าคนร้ายและเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานอยู่ที่ สภ. ปากช่องเป็นคนในพื้นที่นั่นเอง

โดยในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังดูกล้องวงจรปิดเพื่อหาข้อมูลรูปพรรณคนร้ายอยู่นั้น  มีเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งสังเกตเห็นว่าคนร้ายมีลักษณะใกล้เคียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานด้วยกันชื่อว่า  ส.ต.ท. อนุชาจึงได้ไปเชิญตัวมาสอบปากคำที่โรงพักหลังจากพูดคุยกันไม่นานคนร้ายก็ให้การรับสารภาพ

โดยยืนยันว่าที่ทำไปนั้นเนื่องจากว่ามีหนี้สินทั้งติดการพนันและหนี้นอกระบบจึงต้องการหาเงินไปใช้หนี้โดยสามารถนำของการกลับคืนมาได้หมดเนื่องจากคนร้ายนั้นนำของการไปซุกซ่อนไว้ในอ่างบัวที่บ้านของตนเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  www.ufabet.com ลิ้งเข้าระบบ

Continue Reading

เด็กเอนฯ เสียชีวิตเพราะเสพยาเกิน  หลังจากรับงานลูกค้า 

          ข่าวเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ เหล่าบรรดาหญิงสาว ที่รับงานเอนเตอร์เทนเนอร์ นั้นปัจจุบันเริ่มมีเยอะมากขึ้น เด็กเอนฯ เสียชีวิตเพราะเสพยาเกิน และส่วนใหญ่เมื่อมีการตรวจสอบเชิงลึกลงไปก็จะพบว่าผู้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่นั้น ไม่ได้รับเงินเอนเตอร์เทน เพียงแค่การชงเหล้าอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีการรับงานเสริมด้วยนั่นก็คือการเสพยาเสพติดกับลูกค้าในงานปาตี้ด้วยนั่นเอง 

        อย่างกรณีรายล่าสุด หญิงสาวอายุ 25 ปี ชื่อว่าน้องฝ้าย เธอได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 12 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564 เนื่องจากว่าเธอไปรับงานเอนเตอร์เทนที่บ้านพักหลังหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรีโดยเธอได้แจ้งกับครอบครัวของเธอว่าเธอจะไปรับงานชงเหล้าในวันดังกล่าวซึ่งระยะเวลาในการเริ่มงานก็คือเวลาเที่ยงคืนถึงตี 5 ของวันที่ 10 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564 โดยการไปทำงานในครั้งนี้จะได้มีเพื่อนไปร่วมงานอีก 2 คนรวมทั้งสิ้นจะเป็นจำนวน 3 คนด้วยกัน

      อย่างไรก็ตามหลังจากที่เธอทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอกลับมีอาการตัวแข็งเกร็งและหัวใจเต้นอ่อนลงจนเพื่อนๆต้องพาเธอส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลและเธอก็เสียชีวิตในเวลาต่อมาซึ่งทางด้านโรงพยาบาลได้มีการตรวจร่างกายเธอแล้วพบว่ามีสารเสพติดในร่างกายของเธอเกินขนาดซึ่งเป็นผลทำให้ตับของเธอวายเฉียบพลันและเสียชีวิตนั้นเอง

      ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพูดคุยกับทางหญิงสาวอีก 2 คนซึ่งไปรับงานเอนเตอร์เทนพร้อมกับน้องฝ้ายโดยทั้งหมดให้การว่าภายในงานดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การชงเหล้าอย่างเดียวเพียงเท่านั้นแต่ยังมีการเสพยาเสพติดกันด้วยซึ่งทั้งสามคนพากันเสพยาเสพติดแต่ 2 คนที่ไม่ได้เสียชีวิตนั้นเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นและไม่ได้สนใจว่าน้องฝ้ายนั้นเสพยาเสพติดมากแค่ไหนโดยช่วงประมาณ 6:00 น กว่าๆก็ล้มลงซึ่งทุกคนคิดว่าน้องฝ้ายนั้นจากการเสพยา

          หลังจากนั้นมีรุ่นพี่ที่รู้จักกันกับทั้ง 3 คนเลยขับรถมารับออกจากบ้านงานและพามาพักผ่อนที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งทุกคนก็นอนหลับพักผ่อนเดินช่วงเวลา 15:00 น เห็นว่าน้องฝ้ายนั้นยังไม่รู้ออกจากที่นอนทุกคนจึงพากันไปดูเพื่อจะปลูกน้องฝ้ายออกมากินข้าวแต่ปรากฏว่าน้องฝ้ายตัวแข็งและมีอาการเกร็งที่มือจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลและในที่สุดก็เสียชีวิตในเวลาต่อมานั้นเอง

          อย่างไรก็ตามครอบครัวของน้องฝ้ายยืนยันว่ารู้ว่าลูกสาวตัวเองรับงานเอนเตอร์เทนแต่ไม่คิดว่าจะมีการใช้สารเสพติดกันด้วยซึ่งทางด้านคุณแม่ของน้องฝ้ายยืนยันว่าน้องฝ้ายไม่น่าจะเป็นคนนำยาเสพติดไปเองและหากรู้ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นคงจะไม่ให้ลูกรับงานนี้อย่างแน่นอน  

 

ไดรับการสนับสนุนเรื่องราวโดย.  ufabet ฝาก-ถอน ออโต้

Continue Reading

ครม. อนุมัติแจกเงินผู้ปกครองคนละ 2,000  บาทพร้อมสั่งให้ลดค่าเทอม 50% 

    ครม. อนุมัติแจกเงินผู้ปกครอง  เมื่อวันที่ 27 เดือนกรกฎาคมปีพศ 2564   ได้มีการเปิดเผยออกมาจากโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องของการประชุมครมซึ่งมีการประชุมเสร็จสิ้นกันโดยในวาระการประชุมในครั้งนี้นั้นเป็นการพูดถึงการเข้าไปช่วยเหลือบรรดาผู้ปกครองทั้งหลายที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิคในครั้งนี้เกี่ยวกับเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งในเรื่องของค่าเทอมและค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานที่ผู้ปกครองแต่ละคนต้องเสียค่าใช้จ่าย  

      โดยการประชุมในครั้งนี้มีการยื่นเรื่องขออนุมัติให้รัฐบาลเข้าไปช่วยเหลือดูแลประสานงานให้โรงเรียนแต่ละแห่งไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือเอกชนทำการลดค่าเทอมให้กับผู้ปกครองอยู่ที่ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์  ครม. อนุมัติแจกเงินผู้ปกครอง  ซึ่งระดับของโรงเรียนที่จะได้รับส่วนลดนั้นจะเป็นระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับอุดมศึกษา

      อย่างไรก็ตามการที่ทางโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยออกมานั้นระบุว่าในขณะนี้ในที่ประชุมนั้นได้มีการยืนยันออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะมีการเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ปกครองและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ต้องจ่ายค่าเทอมให้กับบุตรหลานของตนเองโดยทางรัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้

     สำหรับความช่วยเหลือนั้นจะเป็นการช่วยเหลือ

เกี่ยวกับเรื่องของการที่ให้โรงเรียนเอกชนนั้นสามารถตรึงราคาค่าใช้จ่ายหรือลดค่าใช้จ่ายลงมาซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายประจำปีการศึกษา 2563 ในขณะเดียวกันนั้นรัฐบาลก็จะมีการมอบเงินช่วยเหลือให้กับทางผู้ปกครองต่อเด็กนักเรียน 1 คนคนละ 2,000 บาทและพยายามที่จะช่วยเหลือสถานศึกษาโดยนำงบประมาณไปทำการช่วยเหลือเพื่อเพิ่มช่องทางในการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ

       อย่างไรก็ตามสำหรับเด็กนักเรียนในระดับอุดมศึกษา

นั้นจะมีการดูแลในเรื่องของค่าเทอมเช่นเดียวกันทั้งค่าเทอมของภาครัฐและภาคเอกชนโดยจะดูแลในการปีการศึกษา 2564 ซึ่งจะดูแลในเรื่องของส่วนลดค่าเทอมให้โดยถ้าเกิดว่าโรงเรียนไหนมีค่าเทอมไม่เกิน 50,000 บาทนั้นจะสามารถลดได้ร้อยละ 50 แต่ถ้าโรงเรียนไหนที่มีค่าเทอม 50,000 ขึ้นไปแต่ไม่เกิน 1 แสนบาทนั้นก็จะสามารถลดให้ได้ร้อยละ 30 และถ้าเกิดว่าค่าเทอมเกิน 1 แสนบาทขึ้นไปจะลดให้ได้ร้อยละ 10 นั่นเอง 

          อย่างไรก็ตามสำหรับค่าเล่าเรียนในระดับอุดมศึกษานั้นทั้งภาคของเอกชนรัฐบาลสามารถช่วยเหลือได้เต็มที่ต่อคนไม่เกิน 5000 บาทเพียงเท่านั้นซึ่งในขณะนี้ทางรัฐบาลได้มีการประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วและอยู่ระหว่างขั้นตอนของการทำพรก. กู้เงินเพื่อที่จะนำเงินไปช่วยเหลือสำหรับโครงการนี้อย่างเร่งด่วนนั่นเอง 

สำหรับเงินช่วยเหลือที่รัฐบาลจะช่วยเหลือให้กับประชาชนนั้นคาดว่าอาจจะต้องรอให้ทางรัฐบาลนั้นเสนอโครงการขึ้นมาและจะมีการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทราบอีกครั้งหนึ่งว่าความช่วยเหลือนี้จะสามารถรับเงินได้ผ่านช่องทางไหน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ufabet ฝาก-ถอน ออโต้

Continue Reading

เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับ เจ้าอาวาสพร้อมพระลูกวัด  จัดปาร์ตี้หมูกระทะ พร้อมดื่มแอลกอฮอล์ 

       เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ 29 เดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2564 ช่วงเวลากลางดึกของคืนดังกล่าวนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรว .สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้รับการร้องเรียนว่าภายในวัดแห่งหนึ่งซึ่งเป็นวัดชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่มีการปาร์ตี้มั่วสุมกันโดยมีพระเป็นผู้จัดปาร์ตี้นอกจากนี้ยังส่งเสียงดังสร้างความรำคาญเป็นอย่างมาก

      อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุก็เดินทางไปที่วัดดังกล่าวทันทีโดยต้องการที่จะไปทำการตรวจสอบซึ่งวัดที่ได้รับการร้องเรียนนั้นชื่อว่าวัดปันเสา  โดยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่   

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงได้เข้าไปค้นกุฏิของเจ้าอาวาส

พบว่าภายในกุฏิของเจ้าอาวาสนั้นมีพระสงฆ์ทั้งหมดรวมกัน 7 คนซึ่งมีเจ้าอาวาส 1 คนและพระลูกวัดอีกทั้งหมด 6 คนในขณะเดียวกันมีฆราวาสนั่งอยู่ด้วยอีก 1 คนซึ่งทั้งหมดนั้นนั่งวงล้อมกินหมูกระทะกันและด้านข้างก็มีกระป๋องเบียร์ซึ่งเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วางอยู่อีกด้วย

         อย่างไรก็ตามในช่วงจังหวะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดประตูเข้าไปนั้นทุกคนที่นั่งกินหมูกะทะกันอยู่ต่างก็พากันตกใจซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนพบว่าเจ้าอาวาสและพระลูกวัดทั้งหมดนั้นให้การสารภาพว่ามีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึง

เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับเจ้าอาวาส และมีการสั่งหมูกะทะมากินภายในกุฏิของเจ้าอาวาสจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการแจ้งข้อหาเจ้าอาวาสและพระลูกวัดทั้งหมดในคดีทำผิดกฎหมายข้อห้ามไม่ให้ซ่องสุมกันตามนโยบายการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิช

ส่วนในเรื่องของการทำเรื่องผิดวินัยสงฆ์เพราะมีการดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์

และมีการฉันอาหารตอนกลางคืนนั้นจะมีการ นำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษาเจ้าคณะสงฆ์ว่าจะสามารถปลดเจ้าอาวาสและพระลูกวัดว่ามีการทำผิดวินัยสงฆ์ได้หรือไม่อย่างไรก็ตามในช่วงเช้าของวันที่ 30 เดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2564

บรรดาพระลูกวัดและเจ้าอาวาสต่างก็พากันเดินทางไปสถานีตำรวจตามที่ได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ตั้งแต่ช่วงกลางคืนว่าให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาซึ่งระหว่างนั้นมีนักข่าวปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สถานีตำรวจโดยพระสงฆ์แต่ละองค์นั้นก็พยายามเดินเลี่ยงไม่ให้สัมภาษณ์นักข่าวแต่อย่างใด 

    สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้พระสงฆ์ทั้งหมด 7 รูปนั้นถือว่าทำผิดวินัยสงฆ์อย่างไรแรงเกี่ยวกับเรื่องของการดื่มสุราเมรัยในขณะเดียวกันมันก็ยังทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับข้อบังคับ พรบ. ห้ามรวมกลุ่มกันเกิน 5 คน  อีกด้วย  

   สำหรับการร้องเรียนในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการให้ข้อมูลว่าใครเป็นผู้ร้องเรียนแต่เชื่อว่าน่าจะเป็นพระสงฆ์รูปอื่นที่อาศัยอยู่ภายในวัดเดียวกันคนพฤติกรรมของพระสงฆ์ทั้ง 7 รูปไม่ไหวจึงได้มีการร้องเรียนไปยังสถานีตำรวจนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.  gclub สล็อตฟรี

Continue Reading