การสอนภาษาอังกฤษผ่านระบบออนไลน์นั้น ควรเลือกอาจารย์ที่เก่ง สำเนียงดีมากสอน

           อย่างที่เรากำลังทราบกันดีกว่าตอนนี้กำลังมีกระแสดราม่าเกี่ยวกับการสอนผ่านระบบออนไลน์ไม่ว่าจะเรื่องของเนื้อหาการสอนที่น่าเบื่อทำให้เด็กหลายคนไม่สนใจที่อยากจะเรียน และดราม่ายังมีอีกหลากหลายแต่ที่กำลังมีการพูดคุยกันมากที่สุดอยู่ในตอนนี้คือ ครูสอนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  นั้นนอกจากจะสอนไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว ยังพูดผิดผิดถูกถูก

การพูดไม่ได้ตรงตามกับหลักของไวยกรณ์และสำเนียงของภาษาที่พูดออกมานั้นก็ไม่เหมือนกับสำเนียงของฝรั่ง ทำให้หลายคนออกมาต่อว่าการเลือกครูมาสอนภาษาอังกฤษในครั้งนี้ ซึ่งหากถามว่าครูคนนั้นผิดไหม คงตอบได้ว่าไม่ผิด เพราะคนไทยในสมัยก่อนสำเนียงก็ไม่ได้ดีหรือเหมือนกันฝรั่งพูดกันอยู่แล้ว

แต่ทางกระทรวงศึกษาธิการเองก็ควรจะมีการคัดเลือกครูที่จะมาสอนออกสื่อทั่วประเทศแบบนี้ให้กับเด็กนักเรียนให้ดีมากกว่านี้ เพราะการเริ่มต้นของการศึกษาหากเด็กได้เรียนกับภาษาอังกฤษที่มีสำเนียงที่ผิดเพี้ยนไปก็ทำให้การเรียนต่อต่อไปของเด็กจะได้สำเนียงที่ไม่ถูกต้องตามไปด้วยนั่นเอง 

 และกระแสการดราม่าครั้งนี้ก็มีทั้งออกมาปกป้องครูและออกมาต่อว่า แต่ที่ถูกแล้วเราไม่ได้ว่าครูที่มาสอนเพียงแค่หากรัฐบาลต้องการที่จะให้มีการเรียนออนไลน์จริงก็ควรจะมีการคัดสรรครูที่จะมาสอนให้กับเด็กเด็กสักนิดเพราะความรู้พื้นฐานของเด็กนั้นสำคัญมากมากเลยก็ว่าได้ หากได้รับการสอนมาในแบบผิดผิดมาตั้งแต่ต้น ต่อไปเด็กก็จะเรียนรู้แบบผิดผิดนั่นเอง

  หากเราเคยลองนำเด็กสองคนมาออกเสียงภาษาอังกฤษให้ฟังโดยเด็กคนหนึ่งเรียนกับครูคนไทยที่ออกเสียงไม่ถูกต้อง และในขณะที่เด็กอีกคนได้รับการสอนจากครูที่สำเนียงตรงตามฝรั่งเป๊ะ คิดว่าเด็กสองคนนี้จะแตกต่างกันไหม ใช่ค่ะ ย่อมแตกต่างแน่นอน เพราะเด็กที่ได้รับการสอนมาอย่างถูกต้องเขาก็จะออกสำเนียงเหมือนกับฝรั่ง

เมื่อไปพูดกับฝรั่งก็จะทำให้สื่อสารกันได้เข้าใจ แต่หากน้ำเสียงที่เราเปล่งออกมานั้นผิดเพี้ยนย่อมสื่อสารกับฝรั่งไม่รู้เรื่องแน่นอน ซึ่งมันจะส่งผลกระทบกับเด็กในอนาคตเมื่อพวกเขาโตขึ้นและต้องไปทำงานร่วมกับชาวต่างชาติ พวกเขาจะเก่งเฉพาะกับการอ่านเท่านั้น แต่การพุดคุยพวกเขาจะไม่สามารถสื่อสารได้รู้เรื่องเลย ดังนั้น รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการควรนำเรื่องนี้ไปทำการปรับปรุงอย่างเร่งด่วนเพื่อให้การเรียนการสอนของไทยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เด็กไทยได้เก่งขึ้นนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.    เว็บพนันออนไลน์ ฝากขั้นต่ำ 50

Continue Reading

ตั้งเป้าหมายที่ควรทำ ในวันที่เราเปิดภาคเรียน

     สำหรับเด็กนักเรียนแล้วเชื่อว่าหลายคนคงไม่อยากอยู่ในช่วงของการเปิดภาคเรียนอย่างแน่นอนเพราะการอยู่ที่บ้านตื่นสายๆดูหนังฟังเพลงเป็นอะไรที่สะดวกสบายและเป็นสิ่งที่เด็กๆชอบอยู่แล้วแต่ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กเองก็อยากจะไปโรงเรียนแล้วเช่นเดียวกันเพราะการไปโรงเรียนนั้นพวกเขาจะได้เจอกับเพื่อนๆและได้เล่นสนุกสนานเนื่องจากว่าหากอยู่บ้านเขาจะได้เล่นคนเดียวถึงแม้จะอาจจะได้เล่นเกมคอมพิวเตอร์แต่บางครั้งมันก็น่าเบื่อ

สำหรับเขานั่นเองแต่กันไปโรงเรียนนั้นเราควรจะต้องมีเป้าหมายในชีวิตของเราได้ว่าเทอมนี้เรามีแผนการอย่างไรได้บ้างที่จะทำให้การเรียนของเราดีขึ้นจากเดิมและทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจดังนั้นเราควรจะมีการตั้งเป้าหมายและแผนการของเราเอาไว้ว่าเปิดเทอมนี้เราควรจะทำอะไรดี

ซึ่งแผนการนั้นอาจจะต้องมีการบันทึกข้อมูลไว้เพื่อจะได้อัพเดทตนเองเรื่อยๆว่าเป็นการที่เราวางไว้นั้นใกล้จะบรรลุเป้าหมายแล้วหรือไม่สำหรับการขั้นตอนการวางแผนการในช่วงเวลาเปิดเทอมนั้นควรทำดังต่อไปนี้

       สำหรับการเริ่มแผนการอันดับแรกเราต้องมีการวางเป้าหมายของเราก่อนว่าในปีนี้เราอยากจะได้เกรดเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไหร่ซึ่งอาจจะมีการกำหนดเป้าหมายว่าจะไม่ต่ำกว่า 3.00 หรือถ้าปกติเราได้เกรดเฉลี่ย 4.00 อยู่แล้วเราควรจะมีการกำหนดว่าการเรียนของเราต้องไม่ตกต่ำกว่าเดิมดังนั้นในเทอมต่อมาเราก็ควรจะได้ 4.00 เช่นเดียวกันแต่ทีนี้ก็ต้องรู้ว่าแล้ว 4.00

เราจะได้มาจากไหนล่ะดังนั้นวิธีการต่อมาก็คือเราต้องมาดูว่าคะแนนต่างๆที่เราจะได้จากคุณครูนั้นมาจากไหนเช่นการที่เราส่งงานครบตามกำหนดการทำข้อสอบเป็นต้นซึ่งเมื่อเราทราบแล้วว่าคะแนนที่จะทำให้เราได้คะแนนสูงนั้นมาจากการทรงงานดังนั้นทุกครั้งที่คุณครูส่งงานมาให้เราทำเราจึงจำเป็นต้องรีบทำให้เสร็จและส่งครูอย่าได้ชะล่าใจเป็นอันขาดว่าส่งภายหลังได้ซึ่งจะทำให้เราลืมได้และคะแนนของเราอาจจะน้อยลงได้ในขณะเดียวกันคะแนนมาจากการสอบเราก็ควรจะรีบอ่านหนังสือตั้งแต่เนิ่นๆไม่ควรอ่านรายวันสอบมากจนเกินไปเพราะจะทำให้เราเครียดซึ่งถ้าเรามีการอ่านหนังสือสะสมเอาไว้แล้ว

ช่วงใกล้สอบแล้วก็ไม่จำเป็นต้องอ่านมากมายนักคะแนนของเราก็จะได้ดีขึ้นเปิดระหว่างเรียนนั้นเราก็ควรจะมีการแผนการตั้งใจเรียนของเราให้ดีโดยมีการเลือกมุมที่จะนั่งเรียนว่ามุมไหนที่เรานั่งแล้วเราจะสามารถได้ความรู้จากการเข้าเรียนในครั้งนั้นได้ดีที่สุดเช่นหากนั่งใกล้ใครแล้วเพื่อนชวนคุยเราอาจจะต้องหามุมอื่นในการตั้งหรือหามุมในการนั่งว่ามองตรงไหนแล้ว

มองเห็นกระดานได้อย่างชัดเจนซึ่งนี่คือแผนการง่ายๆที่เด็กๆสามารถทำเองได้และที่สำคัญควรจะมีการบันทึกเกี่ยวกับเรื่องของการเดินทางไปโรงเรียนว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงตนเองให้ไปโรงเรียนแต่เช้าให้ทันการเข้าห้องเรียนเพื่อที่จะได้ไม่พลาดวิชาเรียนในวิชาแรกๆที่คุณครูจะได้สอน

       สำหรับการแทนการเรียนนี้สามารถนำไปทดลองใช้และปรับแต่งให้เข้ากับตนเองดูได้นะคะแน่นอนว่าถ้าทำแบบนี้ได้จะทำให้ผลการเรียนของเด็กๆได้คะแนนดีขึ้นแน่นอน

 

สนับสนุนโดย.    gclub casino online มือถือ

Continue Reading

เตือนภัย เด็กถูกหลอกให้ผ่อนของเล่น จ่ายเงินครบแล้วแต่ไม่ได้ของ

       เดี๋ยวนี้ แก๊งมิจฉาชีพมีหลายรูปแบบเนื่องจากว่าเศรษฐกิจของประเทศนั้นไม่ดีคนไม่มีงานทำจึงส่งออกหาเงินด้วยการหลอกลวงต้มตุ๋นคนอื่นหรือแม้แต่บางคนก็ไปเป็นขโมยและไปเป็นขอทานและหนึ่งในแก๊งมิจฉาชีพที่จะออกมาเตือนภัยให้ฟังวันนี้ก็คือมีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในอำเภอหนึ่งของจังหวัดลำปางได้มีเหตุการณ์ที่เด็กชายอายุเพียงแค่ 12 ปีโดยกำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ซึ่งเข้าไปเจอกับชายคนหนึ่งอายุประมาณ 40 ปี โดยเด็กชายเราว่าตอนที่เขาไปพบกับชายที่เป็นมิจฉาชีพนั้นเขากำลังไปซื้อของเล่นที่ร้านค้าแห่งหนึ่งซึ่งชายคนดังกล่าวได้ทำทีเข้ามาตีสนิทและเสนอที่จะให้เขาผ่อนสินค้ากับชายคนดังกล่าวได้และเมื่อสามารถผ่อนหมดก็จะได้ของเล่นไปเขาถึงได้ตอบตกลงเลยเขาเลือกที่จะผ่อนปืนอัดลม

ซึ่งชายที่เป็นแก๊งมิจฉาชีพนั้นได้บอกว่าราคาจะอยู่ที่ 1,500 บาทและนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเด็กชายวัย 12 ปีก็นำเงินมาให้ชายคนดังกล่าวนั้นทุกวันบางวันก็ให้ 20 บาทบางวันก็ให้ 30 บาทหรือถ้าวันไหนไม่มีตังค์ก็ไม่ได้ให้โดยมีการผ่อนจ่ายแบบนี้มาเป็นระยะเวลานานจนเมื่อจ่ายเงินครบ 1,500 บาทแล้ว

เด็กชายจึงได้ไปทวงถามปืนอัดลมที่มีการทำการผ่อนกันเอาไว้แต่หลังจากนั้นชายที่เป็นมิจฉาชีพกับปฏิเสธที่จะให้ปืนอัดลมโดยมีข้ออ้างต่างๆในนาไม่ว่าจะเป็นปืนมีน้ำหนักมากไม่สามารถขนย้ายมาให้ได้หรือช่วงนี้ติดการระบาดของไวรัสเดินทางไปในกรุงเทพฯเพื่อซื้อปืนอัดลมให้ไม่ได้ซึ่งข้ออ้างนี้มีมาเรื่อยแต่เขาก็ยังหวังว่าเขาจะได้ปืนอัดลมในที่สุดแต่อย่างไรก็ตามเรื่องมาแดงขึ้นเมื่อครอบครัวของเด็กชายวัย 12 ปีรู้เรื่องที่เด็กชายนั้นไปผ่อนซื้อสินค้าแล้วยังไม่ได้ของทำให้ผู้ปกครองไปทำการแจ้งความ

และแจ้งดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าวซึ่งจากประวัติที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวนั้นเคยมีประวัติทำลักษณะแบบนี้มาแล้วเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2562 ซึ่งในครั้งนั้นเป็นการหลอกให้เด็กผ่อนคอมพิวเตอร์ในราคา 2,000 บาทและเมื่อผ่อนหมดแล้วก็ไม่ได้ของเช่นเดียวกันโดยในครั้งนั้นได้มีการตกลงกันที่จะจ่ายเงินคืนให้กับเด็กครึ่งหนึ่งและไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแต่มาในปี 63 นี้

ใช่คนเดิมก็มาก่อเหตุเหมือนเดิมอีกทำให้คนในหมู่บ้านเกิดความวิตกกังวลว่าหากปล่อยไปชายคนนี้ก็จะดำเนินการเข้ามาหลอกลวงเด็กและหลอกเอาเงินจากเด็กไปอีกดังนั้นคนในหมู่บ้านรวมถึงผู้ใหญ่บ้านจึงได้มีการแชร์เรื่องนี้ออกมาผ่านทาง facebook เพื่อที่จะได้ให้คนที่ยังไม่เคยรู้เหตุการณ์นี้มาก่อนได้ทราบ

เพื่อจะได้เตือนภัยให้กับบุตรหลานของตนเองให้ระวังพวกแก๊งหลอกลวงที่จะหลอกให้โอนเงินให้แล้วไม่ได้ของซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเรียกตัวชายคนดังกล่าวพร้อมกับครอบครัวของเด็กไปตกลงกันโดยชายคนดังกล่าวนั้นยินยอมที่จะชดใช้ค่าเสียหายคืนให้เด็กเพียงแค่ 1000 บาทเท่านั้นซึ่งทางครอบครัวเด็กก็ต้อง ไม่มีฉันเป็นลายลักษณ์อักษรในการใช้จ่ายเงินในแต่ละครั้งนั้นเอง

 

สนับสนุนโดย  ทดลองเล่นบาคาร่าเช็กชี่

Continue Reading

เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จริงไหม

คนเราเมื่อเรานั้นได้พบข้อบกพร่องหรือสิ่งที่เป็นลักษณะนิสัยที่ไม่ดี เรานั้นก็จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองซึ่งสิ่งเหล่านี้เรานั้นไม่สามารถที่จะค้นพบได้ด้วยตัวเองหรือถ้าหากสามารถค้นพบสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยตัวเองก็อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยกว่าจะรู้ว่าตัวเรานั้นมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างและลักษณะนิสัยที่ควรจะเป็นโดยส่วนใหญ่แล้วนั้น

สิ่งเหล่านี้มักจะเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดหรือบอกกล่าวมาจากคนรอบข้างว่าเรานั้นควรเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไรเพราะสิ่งที่เราเป็นอยู่นั้นเราอาจจะไม่รู้ตัวและอาจจะเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความรำควนใจและความเดือดร้อนให้ผู้อื่นได้ดังนั้นแล้วเราทุกคนสามารถที่จะปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างแน่นอนแต่อาจจะต้องมีการปรับทัศนคติของตัวเองว่าเรานั้นสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เพราะในบางคนก็เกิดการต่อต้นในการเปลี่ยนแปลงตัวเองเช่นกัน

เปลี่ยนเพื่ออะไร สิ่งที่จะทำให้นั้นสามารถเปลี่ยนตัวเองได้หรือไม่ได้นั้นก็คือการหาเหตุผลว่าเรานั้นเปลี่ยนเพื่ออะไร เพราะถ้าหากความคิดเรานั้นรู้ถึงเหตุผลว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อออะไรเราก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงด้านที่ไม่ดีของเราได้อย่างถาวร โดยในช่วงแรกการเปลี่ยนแปลงตัวเองมักเป็นเรื่องที่ยากเสมอ

แต่เมื่อเรารู้ถึงจุดมุ่งหมายเราจะค่อยๆชินความชินนี้จะนำไปสู่กระบวนการปรับตัวอย่างถาวรนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น เรานั้นดูดบุหรี่ก็คือด้านที่ไม่ดีและเป็นอันตรายต่อคนอื่นและเมื่อเราตั้งจจะเลิกบุหรี่ซึ่งไม่มีเป้าหมายว่าเรานั้นเลิกเพื่ออะไรแน่นอนว่าเราอาจจะสามารถทำได้แต่มันจะเป็นเรื่องที่โครตจะยากเลย แต่ถ้าหากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเรานั้นจะเลิกบุหรี่เพื่อลูก หรือคนในครอบครัวการเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้นจะสามารถทำได้ง่ายและเร็ววกว่ากลุ่มคนที่ไม่มีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงตัวเองยังไงละ

เปลี่ยนเพื่อใคร ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สอดสอดกับข้อที่ว่าเปลี่ยนเพื่ออะไรนั่นเองเพราะเมื่อเราสามารถหาสาเหตุว่าเพื่ออะไรได้แล้วมักจะมีสิ่งที่จะเป็นแรงจูงใจในการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครแทรกเข้ามาด้วยซึ่งจริงๆแล้วนั้นถ้าหากเราไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงเพื่อใคร ก็อาจจะคิดเสียว่าแปลงแปลงเพื่อตัวเองนั่นเอง เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ได้รับผลลัพธ์โดยตรงก็คือตัวเรานั่นเอง ไม่ต้องเปลี่ยนเพื่อใครแต่เป็นการเปลี่ยนเพื่อตัวเอง

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไร เมื่อเราเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วนั้น เราลองสังเกตได้ว่า เราหรือคนนอบข้างนั้นจะมีความรู้สึกที่เปลี่ยนไป เพราะถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีมากขึ้นคนรอบข้างก็อาจจะมีการชื่นชมในสิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีนั่นเองและโดยส่วนใหญ่คนที่เปลี่ยนแปลงตัวเองนั้นมักเปลี่ยนเป็คนที่ดีเสมอ ดังนั้นแล้วเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้หรือไม่นั้นคำตอบอยู่ที่ตัวเรานั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  gclub slot เล่นผ่านเว็บ

Continue Reading