อินเทอร์เน็ตบิดเบือนการรับรู้อย่างไร

ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น เหตุใดความคิดเห็นที่แตกต่างกันเล็กน้อยและไม่มีนัยสำคัญจึงกลายเป็นช่องว่างทางอุดมการณ์ที่ข้ามผ่านไม่ได้ทางออนไลน์

โหมดการสื่อสารนี้ทำให้คนอื่นฟังดูเหมือนฮิตเลอร์มากขนาดไหน เราทำให้มุมมองหรือทัศนคติของอีกฝ่ายเป็นอุดมคติ ตั้งแต่ฉันเริ่มเขียนบล็อกในปี 2550 มีคนบอกฉันว่าฉันเป็นคนเหยียดผิว กีดกันทางเพศ ฟาสซิสต์ คอมมิวนิสต์ เกลียดผู้หญิง เกลียดผู้ชาย โกหกโดยไร้มโนธรรม ศิลปินหลอกลวง สาวพรหมจารีไร้เพศ ผู้เล่นที่เกลียดผู้หญิง และยังเด็กเกินไป ที่จะรู้อะไรเกี่ยวกับอะไร น่าแปลกที่ฉันไม่เคยถูกกล่าวหาว่าเป็นคนเหล่านี้ในชีวิตส่วนตัวของฉัน

ปัญหาของอินเทอร์เน็ตคือในขณะที่ข้อมูลสามารถถ่ายทอดได้ง่าย ความตั้งใจไม่ใช่ หากเรากำลังอ่านบางสิ่งที่เขียนโดยบุคคลนิรนาม ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม เราจะตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับความตั้งใจของพวกเขาโดยอัตโนมัติ

หากเราชอบสิ่งที่พวกเขาพูด เราก็ตั้งสมมติฐานว่าสอดคล้องกับค่านิยมและโลกทัศน์มากมายของเราแล้ว หากเราไม่ชอบสิ่งที่พวกเขาพูด เราก็ตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับค่านิยมและโลกทัศน์ของพวกเขา แล้วรวมเข้ากับแบบแผนของกลุ่มที่เราไม่เห็นด้วย

มันขี้เกียจทางปัญญา แต่เป็นหน้าที่ทางปัญญาตามธรรมชาติ เมื่อเราขาดข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับความคิดเห็นของบุคคล เราถือว่าพวกเขาเหมารวม และสื่อกลางของอินเทอร์เน็ตก็ทำให้เราขาดข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้คนอยู่ตลอดเวลา

การเผชิญหน้าไม่มีผลกระทบทางสังคมเชิงลบ หากฉันไม่เห็นด้วยกับใครบางคนในชีวิตจริง อาจมีผลลัพธ์ที่อาจตามมาในการยกระดับความไม่เห็นด้วยนั้นเป็นการเผชิญหน้าหรือเป็นการดูถูกส่วนตัว อย่างใดอย่างหนึ่ง ฉันสามารถเตะตูดได้ ฉันอาจถูกไล่ออกจากสถานที่ ฉันอาจรู้สึกอับอายต่อหน้าเพื่อนฝูงทั้งหมดของฉันหรือเริ่มการแข่งขันที่ไม่พอใจและเสี่ยงต่อผลกระทบในอนาคต

ผู้คนพูดเรื่องงี่เง่าและน่ารังเกียจบนอินเทอร์เน็ตเพียงเพราะเหตุที่พวกเขาทำได้และมันไม่สำคัญ พวกเขาไม่ระบุชื่ออย่างมีประสิทธิภาพ และถึงแม้จะไม่ใช่ แต่ก็ไม่ค่อยมีใครใส่ใจมากพอที่จะติดตามผลและบังคับใช้ผลทางสังคมสำหรับข้อความที่หยาบคายของพวกเขา

ยกเว้นกรณีที่หายากและสวยงามเหล่านั้นเมื่อมีผลกระทบทางสังคม ไอ้พวกโง่ๆ พวกนั้นจะเหยียดตรงราวกับว่าพวกเขาเข้าร่วมอาราม ยกตัวอย่างเช่น พังก์จากอังกฤษที่ข่มเหงนักมวยอาชีพเป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่จะพูดขอโทษอย่างอัศจรรย์เมื่อนักมวยพบว่าเขาอาศัยอยู่ที่ไหนและขับรถไปที่บ้านเพื่อเผชิญหน้ากับเขาจริงๆ หรือเด็กชายที่เรียกศาสตราจารย์หญิงชราคนหนึ่งว่าอีตัวสกปรกแล้วออกมาขอโทษทันทีเมื่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่งต่อความคิดเห็นของเขาไปยังแม่ของเขา

 

สนับสนุนโดย    ufabet ฝาก-ถอน ออโต้

Continue Reading

เด็กเอนฯ เสียชีวิตเพราะเสพยาเกิน  หลังจากรับงานลูกค้า 

          ข่าวเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ เหล่าบรรดาหญิงสาว ที่รับงานเอนเตอร์เทนเนอร์ นั้นปัจจุบันเริ่มมีเยอะมากขึ้น เด็กเอนฯ เสียชีวิตเพราะเสพยาเกิน และส่วนใหญ่เมื่อมีการตรวจสอบเชิงลึกลงไปก็จะพบว่าผู้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่นั้น ไม่ได้รับเงินเอนเตอร์เทน เพียงแค่การชงเหล้าอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีการรับงานเสริมด้วยนั่นก็คือการเสพยาเสพติดกับลูกค้าในงานปาตี้ด้วยนั่นเอง 

        อย่างกรณีรายล่าสุด หญิงสาวอายุ 25 ปี ชื่อว่าน้องฝ้าย เธอได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 12 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564 เนื่องจากว่าเธอไปรับงานเอนเตอร์เทนที่บ้านพักหลังหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรีโดยเธอได้แจ้งกับครอบครัวของเธอว่าเธอจะไปรับงานชงเหล้าในวันดังกล่าวซึ่งระยะเวลาในการเริ่มงานก็คือเวลาเที่ยงคืนถึงตี 5 ของวันที่ 10 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564 โดยการไปทำงานในครั้งนี้จะได้มีเพื่อนไปร่วมงานอีก 2 คนรวมทั้งสิ้นจะเป็นจำนวน 3 คนด้วยกัน

      อย่างไรก็ตามหลังจากที่เธอทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอกลับมีอาการตัวแข็งเกร็งและหัวใจเต้นอ่อนลงจนเพื่อนๆต้องพาเธอส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลและเธอก็เสียชีวิตในเวลาต่อมาซึ่งทางด้านโรงพยาบาลได้มีการตรวจร่างกายเธอแล้วพบว่ามีสารเสพติดในร่างกายของเธอเกินขนาดซึ่งเป็นผลทำให้ตับของเธอวายเฉียบพลันและเสียชีวิตนั้นเอง

      ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพูดคุยกับทางหญิงสาวอีก 2 คนซึ่งไปรับงานเอนเตอร์เทนพร้อมกับน้องฝ้ายโดยทั้งหมดให้การว่าภายในงานดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การชงเหล้าอย่างเดียวเพียงเท่านั้นแต่ยังมีการเสพยาเสพติดกันด้วยซึ่งทั้งสามคนพากันเสพยาเสพติดแต่ 2 คนที่ไม่ได้เสียชีวิตนั้นเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นและไม่ได้สนใจว่าน้องฝ้ายนั้นเสพยาเสพติดมากแค่ไหนโดยช่วงประมาณ 6:00 น กว่าๆก็ล้มลงซึ่งทุกคนคิดว่าน้องฝ้ายนั้นจากการเสพยา

          หลังจากนั้นมีรุ่นพี่ที่รู้จักกันกับทั้ง 3 คนเลยขับรถมารับออกจากบ้านงานและพามาพักผ่อนที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งทุกคนก็นอนหลับพักผ่อนเดินช่วงเวลา 15:00 น เห็นว่าน้องฝ้ายนั้นยังไม่รู้ออกจากที่นอนทุกคนจึงพากันไปดูเพื่อจะปลูกน้องฝ้ายออกมากินข้าวแต่ปรากฏว่าน้องฝ้ายตัวแข็งและมีอาการเกร็งที่มือจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลและในที่สุดก็เสียชีวิตในเวลาต่อมานั้นเอง

          อย่างไรก็ตามครอบครัวของน้องฝ้ายยืนยันว่ารู้ว่าลูกสาวตัวเองรับงานเอนเตอร์เทนแต่ไม่คิดว่าจะมีการใช้สารเสพติดกันด้วยซึ่งทางด้านคุณแม่ของน้องฝ้ายยืนยันว่าน้องฝ้ายไม่น่าจะเป็นคนนำยาเสพติดไปเองและหากรู้ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นคงจะไม่ให้ลูกรับงานนี้อย่างแน่นอน  

 

ไดรับการสนับสนุนเรื่องราวโดย.  ufabet ฝาก-ถอน ออโต้

Continue Reading

ครม. อนุมัติแจกเงินผู้ปกครองคนละ 2,000  บาทพร้อมสั่งให้ลดค่าเทอม 50% 

    ครม. อนุมัติแจกเงินผู้ปกครอง  เมื่อวันที่ 27 เดือนกรกฎาคมปีพศ 2564   ได้มีการเปิดเผยออกมาจากโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องของการประชุมครมซึ่งมีการประชุมเสร็จสิ้นกันโดยในวาระการประชุมในครั้งนี้นั้นเป็นการพูดถึงการเข้าไปช่วยเหลือบรรดาผู้ปกครองทั้งหลายที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิคในครั้งนี้เกี่ยวกับเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งในเรื่องของค่าเทอมและค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานที่ผู้ปกครองแต่ละคนต้องเสียค่าใช้จ่าย  

      โดยการประชุมในครั้งนี้มีการยื่นเรื่องขออนุมัติให้รัฐบาลเข้าไปช่วยเหลือดูแลประสานงานให้โรงเรียนแต่ละแห่งไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือเอกชนทำการลดค่าเทอมให้กับผู้ปกครองอยู่ที่ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์  ครม. อนุมัติแจกเงินผู้ปกครอง  ซึ่งระดับของโรงเรียนที่จะได้รับส่วนลดนั้นจะเป็นระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับอุดมศึกษา

      อย่างไรก็ตามการที่ทางโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยออกมานั้นระบุว่าในขณะนี้ในที่ประชุมนั้นได้มีการยืนยันออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะมีการเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ปกครองและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ต้องจ่ายค่าเทอมให้กับบุตรหลานของตนเองโดยทางรัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้

     สำหรับความช่วยเหลือนั้นจะเป็นการช่วยเหลือ

เกี่ยวกับเรื่องของการที่ให้โรงเรียนเอกชนนั้นสามารถตรึงราคาค่าใช้จ่ายหรือลดค่าใช้จ่ายลงมาซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายประจำปีการศึกษา 2563 ในขณะเดียวกันนั้นรัฐบาลก็จะมีการมอบเงินช่วยเหลือให้กับทางผู้ปกครองต่อเด็กนักเรียน 1 คนคนละ 2,000 บาทและพยายามที่จะช่วยเหลือสถานศึกษาโดยนำงบประมาณไปทำการช่วยเหลือเพื่อเพิ่มช่องทางในการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ

       อย่างไรก็ตามสำหรับเด็กนักเรียนในระดับอุดมศึกษา

นั้นจะมีการดูแลในเรื่องของค่าเทอมเช่นเดียวกันทั้งค่าเทอมของภาครัฐและภาคเอกชนโดยจะดูแลในการปีการศึกษา 2564 ซึ่งจะดูแลในเรื่องของส่วนลดค่าเทอมให้โดยถ้าเกิดว่าโรงเรียนไหนมีค่าเทอมไม่เกิน 50,000 บาทนั้นจะสามารถลดได้ร้อยละ 50 แต่ถ้าโรงเรียนไหนที่มีค่าเทอม 50,000 ขึ้นไปแต่ไม่เกิน 1 แสนบาทนั้นก็จะสามารถลดให้ได้ร้อยละ 30 และถ้าเกิดว่าค่าเทอมเกิน 1 แสนบาทขึ้นไปจะลดให้ได้ร้อยละ 10 นั่นเอง 

          อย่างไรก็ตามสำหรับค่าเล่าเรียนในระดับอุดมศึกษานั้นทั้งภาคของเอกชนรัฐบาลสามารถช่วยเหลือได้เต็มที่ต่อคนไม่เกิน 5000 บาทเพียงเท่านั้นซึ่งในขณะนี้ทางรัฐบาลได้มีการประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วและอยู่ระหว่างขั้นตอนของการทำพรก. กู้เงินเพื่อที่จะนำเงินไปช่วยเหลือสำหรับโครงการนี้อย่างเร่งด่วนนั่นเอง 

สำหรับเงินช่วยเหลือที่รัฐบาลจะช่วยเหลือให้กับประชาชนนั้นคาดว่าอาจจะต้องรอให้ทางรัฐบาลนั้นเสนอโครงการขึ้นมาและจะมีการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทราบอีกครั้งหนึ่งว่าความช่วยเหลือนี้จะสามารถรับเงินได้ผ่านช่องทางไหน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ufabet ฝาก-ถอน ออโต้

Continue Reading