หญิงชราช็อกไฟไหม้บ้าน เมื่อวันที่ 20 เดือนตุลาคม ปีพ.ศ. 2564 ช่วงเวลาประมาณเช้ามืดได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ชุมชนบ้านเหล่าจนได้รับความเสียหายไปทั้งหมด 8 หลังคาเรือนด้วยกันโดยชุมชนแห่งนี้อยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดนครพนม อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบสาเหตุของการเกิดไฟไหม้หลังจากที่มีการควบคุมเพลิงจนไฟสงบลงแล้วพบว่าเกิดจากปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร
นอกจากนี้ยังมีหญิงชราคนหนึ่งอายุ 61 ปี ร้องไห้ล้มทั้งยืนขณะที่เกิดเหตุไฟไหม้ เนื่องจากหญิงชราดังกล่าวเป็นเจ้าของบ้านหลังหนึ่งในจำนวน 8 หลังที่ถูกไฟไหม้นั่นเองอย่างไรก็ตามเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้หญิงชราเสียใจเท่ากับการที่เธอเพิ่งไปทำการเบิกเงินมาจำนวนหนึ่งล้านบาท
โดยหวังว่าจะเอาเงินดังกล่าวนั้นไปซื้อที่ดินให้กับลูกของเธอและยังมีสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทถูกเผาไหม้ไปกับบ้านของเธอด้วยทำให้เธอนั้นล้มทั้งยืนเลยทีเดียวเพราะมันเหมือนกับว่าเธอนั้นสิ้นเนื้อประดาตัวแล้วนั่นเอง
จากคำให้สัมภาษณ์ของลูกสาวของหญิงชราระบุว่าแม่ของเธอนั้นไปแอบถอนเงินออกจากธนาคารโดยที่ไม่แจ้งคนในบ้านหลังจากเอาเงินมาแล้วก็เอาไปซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าพร้อมกับทองคำ ทุกคนมารู้เรื่องตอนที่หญิงชราบอกว่ามีเงินซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าก็ตอนที่ไฟไหม้บ้านเรียบร้อยแล้ว
และไฟไหม้รุนแรงมากจนไม่มีใครสามารถเข้าไปเอาเงินและทองออกมาได้ได้แต่พากันยืนดูเหตุการณ์ไฟไหม้และมองดูเงินล้านถูกเผาไหม้ไปพร้อมบ้านนั่นเอง
อย่างไรก็ตามหญิงชราที่เป็นเจ้าของเงิน 1 ล้านบาทนั้นไม่ยอมกลับมาดูสภาพบ้านหลังจากที่ดับไฟได้เรียบร้อยแล้วเนื่องจากว่ายังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ต้องเสียเงินล้านไปซึ่งในขณะนี้ญาติพี่น้องได้พาหญิงชราไปอยู่ที่อื่นเป็นการชั่วคราวก่อนเพราะไม่ต้องการให้หญิงชรามาเห็นสภาพบ้านแล้วได้รับการกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจซึ่งที่ตัวบ้านนั้นก็จะมีบรรดาลูกๆและคนอื่นๆในครอบครัวเข้ามาทำความสะอาด
นอกจากนี้ทางด้านเทศบาลตำบลนาคำยังออกมาให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน 8 หลังคาเรือนที่ถูกไฟไหม้ในครั้งนี้ด้วยโดยเบื้องต้นนั้นได้มีการยื่นเรื่องขอเงินสนับสนุนจากอบจจังหวัดนครพนมนอกจากนี้ก็ยังมีการเปิดรับบริจาคข้าวของเครื่องใช้ไม่ว่าจะเป็นของอุปโภคและบริโภครวมถึงยารักษาโรคนอกจากนี้ยังเปิดรับบริจาคเงินให้กับผู้ประสบภัยอีกด้วยโดยในขณะนี้มีคนทำการโอนเงินไปบริจาคเป็นจำนวนทั้งสิ้น 8 หมื่นกว่าบาทแล้ว
สนับสนุนโดย. ufabet บาคาร่า