สังคมชนบท

สังคมชนบทถ้าหากพูดถึงแล้วนั้นเราก็อาจจะนึกถึงสังคมที่ไม่มีน้ำและไม่มีไฟหรือการขนส่งสาธารณะเข้าไปถึงนั่นเอง ซึ่งจริงๆแล้วนั้นไม่ใช่เพราะในปัจจุบันมีการพัฒนาสังคมชนบทให้มีการเจริญเติบโตในด้านต่างๆที่ดีขึ้นรวมถึงน้ำไฟและการขนส่งสาธารณะมีการเข้าถึงแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องแต่ด้วยสังคมชนบทมีการพัฒนาที่ช้ากว่าสังคมเมืองทำให้สังคมชนบทจึงมีความแตกต่างจากสังคมเมืองอย่างสิ้นเชิง

เพราะถึงจะมีการพัฒนาในด้านเทคโนโลยีต่างๆให้ก้าวไกลมากขึ้นแต่สังคมชนบทก็ไม่อาจะเทียบเคียงสังคมเมืองได้ เพราะสังคมชนบทนั้นยังคงมีความแตกต่างในด้านต่างๆอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นในด้าน

การศึกษา การศึกษาแม้จะเป็นพื้นฐานที่มีการเรียนการสอนอยู่ทั่วประเทศแต่ด้วยเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารนั้นอาจจะยังไม่สามารถทำอย่างการศึกษาในเมืองได้ เนื่องจากอาจจะเป็นพื้นที่ที่มีความห่างไกลจึงต้องอาศัยจากหลายๆหน่วยงานในการติดต่อประสานงานในเรื่องการศึกษา จึงเป็นสิ่งที่ทำให้การศึกษาในสังคมชนบทนั้นเป็นรองการศึกษาสังคมในเมืองอยู่นั่นเองถึงแม้ปัจจุบันจะมีการเรียนการสอนออนไลน์ต่างๆในการศึกษาในเมืองแต่ด้วยความไม่พร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการศึกษาในชนบทนั้นทำให้การศึกษาเป็นสิ่งที่ยังไม่มีการเจริญเติบโตไปมากกว่านี้นั่นเอง

การทำงาน โดยส่วนใหญ่แล้วสังคมชนบทนิยมทำงานเกษตรกรมากกว่าการทำงานอย่างอื่นเนื่องจากในพื้นที่อาจจะเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมในการเพาะปลูกหรือการทำเกษตรกรรม ทำให้ผู้ที่อาศัยในชนบทนั้นไม่ได้อยากดิ้นรนที่จะไปหางานในเมืองนั่นเอง แต่ก็มีคนชนบทบางกลุ่มที่นิยมหนีจากชนชทเพื่อมาทำงานในเมืองเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยถ้าหากพูดถึงอาชีพที่มีความนิยมในการทำในชนบทนั้นถือเป็นอาชีพที่ค่อนข้างเป็นอิสระและทำให้ยังมีเวลาในการไปทำอย่างอื่นอีกด้วยอาจจะสังเหตได้ว่าผู้คนในสังคมชนบทนั้นถึงแม้การทำงานจะเป็นการทำงานที่เหนื่อยและลำบากกว่าการทำงานในสังคมเมืองนั้น แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความสุขในการทำงานจะสังเกตได้ชัดเจนว่าสังคมชนบทนั้นมีการทำงานที่มีความสุขมากกว่าสังคมในเมือง

การปกครอง เป็นการปกครองอย่างเรียบง่ายและสามารถมีการดูและจากคนปกครองได้อย่างทั่วถึง เพราะชนบทนั้นเป็นพื้นที่เล็กๆไม่เหมือนนในเมืองที่มีความวุ่นวายและพื้นที่ในการปกครองเป็นพื้นที่ที่กว้าง ทำให้สังคมชนบทนั้นมีการปกครองที่ดีและสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนในชุมชนชนบทได้ง่าย

การดำเนินชีวิต เป็นไปอย่างเรียบง่ายเช่นกันและไม่ต้องเร่งรีบในการทำสิ่งต่างๆ สามารถใช้ชีวิตได้ตามที่ต้องการและค่อนข้างเป็นอิสระ และคนชนบทนั้นมักมีน้ำใจและมีความเอิ้อเฟื้อเผื่อแผ่อยู่เสมอๆด้วยทำให้เกิดความรักความสามัคคีกันนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    ทางเข้า ufabet ภาษาไทย