ศาลตัดสินอาม่าชนะคดี หลังฟ้องร้องธนาคารโกงเงิน 

            จากกรณีที่เจ้าของบริษัทกรุงไทยออโต้จำกัด    ซึ่งปัจจุบันนี้มีอายุ 83 ปีได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกเจ้าหน้าที่ของทางธนาคารแห่งหนึ่งได้มีการโกงเงินในบัญชีไปรวมทั้งสิ้นแล้ว 13 ล้านบาทโดยถูกโกงตั้งแต่ช่วง ปีพ.ศ. 2560   เหตุการณ์ในครั้งนั้นทางด้านเจ้าของบริษัทกรุงไทยออดิโอได้มีการไว้เนื้อเชื่อใจพนักงานที่ทำงานอยู่ในธนาคารเนื่องจากว่ามีการฝากเงินกับธนาคารนี้เป็นประจำต่อเนื่องกันมายาวนานถึง 40 ปีและพนักงานก็ให้บริการด้วยดีมาโดยตลอด

       ดังนั้นทางด้านนางอรุณพรจึงมีความไว้ใจพนักงานธนาคารเหมือนลูกหลานจึงได้มอบเงินสดให้พนักงานธนาคารไปทำการฝากเงินเข้าบัญชีให้หลังจากที่เห็นจำนวนเงินตัวเลขเป็นจำนวนมากพนักงานธนาคารก็ได้มีการแอบไปเปิดบัญชีเป็นชื่อของตนเองและยักยอกเอาเงินสดที่ทางนางอรุณพรฝากไปเข้าบัญชีธนาคารเอาเข้าบัญชีของตนเองสร้างความเสียหายรวมทั้งหมด 13 ล้านบาทซึ่งภายหลังนั้นธนาคารสามารถที่จะทำการดึงเงินคืนมาจากพนักงานบัญชีคนดังกล่าวได้แต่ก็ยังขาดเงินอีกประมาณ 3.6 ล้านบาท 

          อย่างไรก็ตามเมื่อครอบครัวของนางอรุณพรให้มีการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ธนาคารปรากฏว่าธนาคารดังกล่าวนั้นไม่ยินยอมชำระเงินส่วนที่เหลือคืนให้และยังบอกให้ไปทำการฟ้องร้องกับทาง ศาลเอาเอง   ทำให้ครอบครัวของนางอุทุมพรจำเป็นต้องยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อทำการขอเงินที่ทางธนาคารยังติดหนี้อยู่อีก 3.6 ล้านบาทคืนอย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการยื่นเรื่องมานานหลายปี  ปัจจุบันศาลได้มีการตัดสินคำพิพากษาเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยยืนยันให้ธนาคารทำการชำระหนี้ 3.6 ล้านคืนให้กับทางครอบครัวของนางสมพรนอกจากนี้ยังต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับครอบครัวของนางอรุณพรเพิ่ม  ร้อยละ 7.5 ต่อปี  โดยให้ยึดเอานับตั้งแต่วันที่นั่งอัมพรมีการยื่นเรื่องทำการฟ้องธนาคารนั้นเอง

        สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ครอบครัวของนางอรุณพรยอมรับว่ารู้สึกดีตายที่ศาลนั้นให้การตัดสินอย่างเป็นธรรมแต่อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ศาลมีคำสั่งมาทางด้านเจ้าหน้าที่ธนาคารดังกล่าวก็ยังไม่ได้มีการติดต่อเข้ามาพูดคุยว่าจะมีการนำเงินดังกล่าวมาชดเชยให้กับนางอุทุมพรเมื่อไหร่ซึ่งทางด้านทนายความของนางอุทุมพรเองก็มองว่าโดยปกติแล้วถ้าตามคำสั่งศาลเมื่อมีการแจ้งออกมาจะต้องนำเงินมาคืนภายใน 30 วันซึ่งคงต้องรอดูว่าธนาคารจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรนับจากนี้อีกทีหนึ่ง

     สำหรับกรณีพนักงานยักยอกเงินของลูกค้าระดับ VIP นี้ไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะครอบครัวของนางอุทุมพรเพียงเท่านั้นแต่ยังมีหลายคนที่มีการฝากเงินไว้ในธนาคารและไว้ใจปากแบบระยะยาวและไม่เคยเข้ามาตรวจสอบบัญชีของตนเองภายหลังจากมาตรวจสอบก็จะพบเงินหายออกจากธนาคารอยู่บ่อยครั้งซึ่งปัญหานี้ทำให้หลายคนเริ่มไม่ไว้วางใจในการให้บริการของธนาคารเช่นครอบครัวของนางอุทุมพรเองก็ยืนยันว่าจะไม่มีการเปิดบัญชีกับธนาคารที่เป็นคู่กรณีนี้อีกต่อไป

 

 

สนับสนุนโดย    gclub มือถือ ทดลองเล่น