กิจกรรมการเล่นเกมในสมัยปัจจุบันนี้ ถือเปนหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กสมัยใหม่
เพราะอาจจะมองว่ายิ่งเราหมั่นฝึกฝนการเล่นเกมเป็นประจำนั้น จะยิ่งเพิ่มทักษะในการเล่นเกม และช่วยเพิ่มความชำนาญในการเล่นเกมให้แก่เราได้ ซึ่งก็จะสามารถนำไปต่อยอดในการสร้างเป็นอาชีพเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวได้
แน่นอนว่าการเล่นเกมถือเป็นกิจกรรมที่ดีและมีประโยชน์เป็นอย่างมากในสมัยปัจจุบันนี้ แต่ในขณะเดียวกันสำหรับผู้ปกครองบางคนก็อาจจะมองว่าการเล่นเกม เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่อาจทำลายอนาคตของเด็ก ๆ ได้
อีกทั้งยังทำให้เด็ก ๆ หลายคนนั้นเสียการเรียน และมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปอีกด้วย นอกจากนี้ยังอาจส่งผลกนะทบที่ไม่ดีต่อร่างกาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมอง หรือระบบประสาทของเราได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่ชื่นชอบการเล่นเกมเป็นปกติอยู่แล้ว
วันนี้ เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า เราจะสามารถรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังมีความเสี่ยงต่อการเสพติดการเล่นเกม เผื่อว่าจะช่วยให้หลาย ๆ คนนั้นรู้เท่านั้น และป้องกันตนเองไม่ให้มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปจากการเล่นเกม จะมีพฤติกรรมไหนกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย
- การหมกหมุ่นกับเกมมากเกินไป
แน่นอนว่าการที่เราให้ความสำคัญกับการเล่นเกมเป็นอันดับแรกเหนือสิ่งอื่นใด ถือเป็นสัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกได้ว่าเรากำลังเสี่ยงต่อการเสพติดการเล่นเกมมากเกินไป เพราะปกติแล้วหากเรามีเวลาว่าง ๆ
เราก็จะให้ไปกับการเล่นเกมจนหมด และยังมีความรู้สึกที่ว่าอยากเล่นเกมอยู่ตลอดเวลา หมกหมุ่น หรือหักโหมมากจนเกินไปอีกด้วย
- มีอารมณ์ร้อนได้ง่าย
โดยปกติแล้วเกมในแต่ละประเภทจะมีรูปแบบในการเล่นที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบางเกมยิ่งเราไปอินกับมันมากเกินไป หรือให้ความสำคัญมากเกินไป
จนทำให้เรากลายเป็นคนอารมณ์ร้อนขึ้น อาจเป็นไปได้ว่าเรากำลังเสี่ยงต่อการเสพติดการเล่นเกม และทำให้อารมณ์ของเราร้อนขึ้น และเปลี่ยนไปจากเดิม
- รู้สึกกระวนกระวาย
แน่นอนว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สุกว่าตนเองมีนิสัย หรือมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น รู้สึกกระวนกระวาย กระสับกระส่าย ตอนที่ไม่ได้เล่นเกม ซึ่งอาการนี้อาจเป็นอาการที่บอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าเรากำลังติดเกม และไม่สามารถอยู่ห่างจากการเล่นเกมได้นั่นเอง