อาการโยโย่ เป็นภาวะที่เกิดขึ้นจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วแล้วกลับมาเพิ่มน้ำหนักใหม่อีกครั้งในระยะเวลาอันสั้น มักจะเกิดจากการลดน้ำหนักที่ไม่ถูกวิธี เช่น การควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด หรือการใช้ยาลดน้ำหนักที่ส่งผลให้ร่างกายสูญเสียพลังงานและมวลกล้ามเนื้อไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเลิกควบคุมอาหารหรือหยุดการใช้ยา น้ำหนักจะกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าก่อนการลดน้ำหนัก
สาเหตุของอาการโยโย่
- การควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด: การลดปริมาณแคลอรีที่ร่างกายได้รับอย่างรวดเร็วเกินไป ทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน เมื่อต่อมานำพลังงานกลับเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะเก็บสะสมไขมันมากขึ้น เพราะเกิดความเคยชินจากช่วงที่ขาดพลังงาน
- การใช้ยาลดน้ำหนัก: ยาลดน้ำหนักบางชนิดส่งผลให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่เผาผลาญพลังงาน หากสูญเสียกล้ามเนื้อไป การเผาผลาญพลังงานจะลดลง ทำให้น้ำหนักกลับมาเพิ่มอย่างรวดเร็วเมื่อหยุดใช้ยา
- การขาดสมดุลในอาหารและการออกกำลังกาย: การขาดการออกกำลังกายหรือการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตระหว่างการลดน้ำหนัก ทำให้น้ำหนักกลับมาได้ง่าย
ผลเสียของอาการโยโย่
- การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ: ในการลดน้ำหนักที่รวดเร็ว ร่างกายจะใช้พลังงานจากกล้ามเนื้อ ทำให้มวลกล้ามเนื้อหายไป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเผาผลาญพลังงาน ส่งผลให้เมื่อหยุดการควบคุมอาหาร ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญพลังงานได้มากเท่าเดิม จึงทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- การสะสมไขมันเพิ่มขึ้น: เมื่อร่างกายกลับมารับพลังงานมากขึ้นหลังการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ร่างกายจะสะสมไขมันมากขึ้น โดยเฉพาะไขมันที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ไขมันในช่องท้อง ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง
- ผลกระทบต่อระบบเผาผลาญพลังงาน: อาการโยโย่มีผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ทำให้การเผาผลาญลดลง เมื่อเกิดอาการโยโย่ซ้ำๆ ร่างกายจะมีประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงานลดลงเรื่อยๆ และทำให้น้ำหนักยิ่งเพิ่มขึ้นในระยะยาว
- ความเครียดและปัญหาทางจิตใจ: การโยโย่ทำให้คนที่พยายามลดน้ำหนักรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวังต่อความพยายามของตนเอง เกิดความเครียด อาจส่งผลให้มีพฤติกรรมการกินที่ไม่สมดุล เช่น การกินอาหารมากเกินไปในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อระบายความเครียด
- ผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม: อาการโยโย่สามารถส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอต่อการติดเชื้อและโรคต่างๆ นอกจากนี้ยังมีผลต่อระบบฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญ ทำให้ระดับฮอร์โมนผิดปกติ และอาจส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมน้ำหนักในอนาคต
การป้องกันอาการโยโย่ควรเน้นไปที่การลดน้ำหนักอย่างยั่งยืนและมีสุขภาพดี การควบคุมอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสม ควรทำอย่างสมดุล โดยไม่หักโหมหรือรีบเร่งเกินไป และหลีกเลี่ยงการใช้ยาลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็น
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อสุขภาพในระยะยาวเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงจากอาการโยโย่
สนับสนุนโดย เครื่องช่วยฟังต้องใส่กี่ข้าง